วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แอ่งอารยธรรมมอญ


แอ่งอารยธรรมมอญ

 
หลักศิลาจารึกอักษรภาษามอญ
 
 

เคยเป็นถึง "แอ่งอารยธรรมแม่" ของอารยธรรมทั้งปวงในแถบอุษาคเนย์ จักต้องมาจบลงด้วยการไร้ชาติสิ้นแผ่นดิน ทว่าหากย้อนเข้าไปในยุคสมัยประวัติศาสตร์ทำให้ทราบว่า "มอญ" คือบรรพบุรุษกลุ่มแรกที่เคยครอบครองผืนแผ่นไทยมาก่อน เช่นในพุทธศตวรรษที่ ๘ หรือราว ๑,๘๐๐ ปีมาแล้วมีหลักฐานยืนยันว่า อาณาจักรมอญแห่งแรกสุดมีศูนย์กลางอยู่แถบนครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ซึ่งเรียกรวมกันว่า "อาณาจักรทวารวดี" (Dvaravati)
 
นอกจากนั้นยังมีหลักฐานเอกสารยืนยันอีกว่า บรรพชนของคนมอญน่าจะมาจากเมืองตะเลงคนา (Telinggana) ซึ่งอยู่ในแถบอินเดียตอนใต้ ก่อนจะอพยพย้ายมาอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำอิรวดีที่เมืองหงสาวดีแล้วตั้งเป็นอาณาจักรขึ้นเรียกว่า "อาณาจักรพยู" ตอนหลังถูกพม่าเข้ารุกรานและได้อพยพหนีเข้ามาอยู่ในสยาม โดยเข้ามาตั้งรกรากครั้งแรกที่บริเวณจังหวัดนครปฐม ต่อมาได้กระจายออกไปตามที่ต่างๆ ในประเทศ นอกจากนี้ยังมีการขุดพบหลักฐานที่จังหวัดนครปฐม พบเหรียญเงินปรากฏอักษรมอญไว้ว่า "เย ธมฺมา ศรีทวารวติ" ซึ่งก็ไปสอดคล้องกับชื่อของเมืองทวารวดี ทำให้ทราบว่ากลุ่มคนมอญเคยมีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อนในสมัยทวารวดีเมื่อก่อนศตวรรษที่ ๑๕
 
 
 
สำหรับกลุ่มคนมอญที่เข้ามาอยู่ในหริภุญชัย สันนิษฐานว่าเข้ามาเมื่อราวศตวรรษที่ ๑๖ ปัจจุบันยังปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีที่วัดเกาะกลาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ซึ่งน่าจะเป็นคนมอญกลุ่มสุดท้ายที่ยังคงหลงเหลืออยู่ มอญกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า "พวกเม็งบ้านหนองดู่" ตั้งบ้านเรืออยู่สองฝั่งแม่น้ำปิง ฝั่งตะวันออกเป็นมอญบ้านหนองดู่และบ่อคาว ส่วนฝั่งตะวันตกเป็นมอญบ้านต้นโชค อ.สันป่าตอง มีแม่น้ำปิงเป็นสายใยยึดโยงความสัมพันธ์รวมคนมอญทั้งสองฝั่งได้ราว ๓,๐๐๐ กว่าชีวิต ๕๐๐ กว่าครัวเรือน
 
 หากย้อนไปในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นว่า ก่อนสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้มีการอพยพคนมอญขึ้นมาอาศัยอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำปิงและแม่น้ำวังกลุ่มใหญ่ ๑ - ๒ ระลอก ซึ่งปัจจุบันปรากฏชุมชนคนมอญทั้งในจังหวัดลำพูนและลำปาง ขณะเดียวกันประเด็นหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจก็คือประเด็นเรื่อง พระนางจามเทวีเป็นมอญที่มาจากละโว้หรือเป็นมอญบ้านหนองดู่
 
 
 
ศาสนสถาน ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุโบราณ 
---------------------------------------------------------------
ปริศนาเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของพระนางจามเทวีนั้นเป็นเรื่องที่ยังถกเถียงกันไม่จบ เนื่องจากตำนานที่เขียนขึ้นล้วนแต่งในสมัยหลังทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ในเอกสารประกอบการเสวนาจัดทำโดย พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหริภุญชัย เรื่องปฐมเหตุแห่งมอญหริภุญชัย กล่าวถึงกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรหริภุญชัยสมัยนั้นประกอบด้วยคน ๓ กลุ่มหลัก คือ
 
มอญจากละโว้หรือมอญทวารวดี ส่วนใหญ่เป็นชนชั้นสูงพวกนักปราชญ์ นักบวช ขุนนาง ศิลปิน นายช่างที่เดินทางมาพร้อมกับพระนางจามเทวีกว่าเจ็ดพันชีวิต

กลุ่มที่ ๒  คือชาวเม็งพื้นเมือง ซึ่งเป็นชาติพันธุ์เดียวกัน พูดภาษาคล้ายคลึงกับมอญราชสำนัก ซึ่งกลุ่มนี้พระนางจามเทวีทรงโปรดให้เข้ามาอาศัยอยู่ภายในเวียงปะปนกับชาวมอญจากภาคกลางอย่างกลมกลืน
 
ส่วนกลุ่มสุดท้ายเป็นพวกลัวะหรือละว้า ชนพื้นเมืองดั้งเดิมมีสถานะเป็นพลเมืองชั้นสองโดยให้อาศัยอยู่บริเวณนอกเมือง แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เราไม่พบหลักฐานทางโบราณคดีที่เก่าแก่ย้อนไปถึงยุคของพระนางจามเทวีในรูปของจารึกหรือศิลปกรรม
 
ร่องรอยอารยธรรมมอญที่เหลือให้เห็นในลำพูนก็พบในสมัยของพระเจ้าสรรพสิทธิ์ (พุทธศตวรรษที่ ๑๕) เป็นอักขระมอญโบราณจารึกลงบนแท่งหินขนาดใหญ่จำนวน ๘ หลัก (ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีจารึกภาษามอญมากที่สุดในประเทศไทย) ทำให้ทราบว่ามีกลุ่มชนชาวมอญเคยอาศัยอยู่ในอาณาจักรหริภุญชัยมาก่อนที่จะถูกกลืนหายไปพร้อมกับการเดินทางมาถึงของกลุ่มชนชาวไทจากลุ่มแม่น้ำกก แม่น้ำโขง ภายใต้ชื่ออาณาจักรล้านนา
 
 ฐานพระอุโบสถ
--------------------
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชาวมอญแม่ระมิงค์หลายคนจักพยายามยืนยันต้นตระกูลของพวกเขาคือมอญหริภุญชัย มิใช่มอญใหม่จากที่อื่น แต่นักประวัติศาสตร์ในยุคหลังกลับเชื่อว่าน่าจะเป็นมอญใหม่มากกว่า เพราะจากประวัติศาสตร์ล้านนายุคหลังหริภุญไชยเป็นต้นมา แทบไม่มีการกล่าวอ้างถึงชาวมอญอีกเลย เนื่องจากลำพูนได้กลายเป็นแหล่งอาศัยของชาวไทยวน ไทยอง ไทลื้อ ซึ่งอพยพเข้ามาแทนที่ชาวมอญไปเรียบร้อยแล้ว
 
เพราะถ้าหากมอญใหม่ ก็ชวนให้คิดต่อไปว่า
โยกย้ายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรและมาจากไหน จากพม่าหรือจากภาคไหนของประเทศไทย
แล้วไยมาเลือกเอาดินแดนแถบป่าซาง - สันป่าตอง ถิ่นเก่าของมอญหริภุญชัยยึดเป็นเรือนตาย...
คำถามเหล่านี้ยังเป็นปริศนาที่น่าขบคิดอยู่ไม่น้อย

----------------------

จักรพงษ์ คำบุญเรือง

www.chiangmainews.co.th

----------------------

Monlamphun ขอขอบพระคุณทุกๆ เว็บไซต์ ทุกๆ บทความที่ได้เผยแพร่เกียรติประวัติ เกียรติคุณของ

มอญบ้านหนองดู่-มอญบ้านบ่อคาว ซึ่ง แว่น มัฆวาน ในฐานะที่เป็นลูกหลานเม็งคะบุตร เห็นว่ากระจัดกระจายกันอยู่หลายที่หลายแห่ง จึงได้รวบรวมนำมาเสนอไว้ ณ ที่นี้ เพื่อให้อนุชนได้ทราบ และเป็นการย้ำเตือนความทรงจำของ
มอญบ้านหนองดู่ - มอญบ้านบ่อคาว
   
ซึ่งเป็น...

หนึ่งเดียวในจังหวัดลำพูน

หากมีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง ผิดพลาด หรือไม่ถูกต้อง ขอท่านผู้รู้ทั้งหลาย กรุณาแนะนำ ติชม เพื่อที่จะได้แก้ไข
ให้ถูกต้องต่อไป....
อีกทั้งเรื่องราวเรื่อง บางตอน บางบทความ ไม่ได้บอกที่มาของข้อมูลเหล่านั้น

ขอกราบอภัย และขอกราบขอบพระคุณ..มา ณ ที่นี้ด้วย

"แว่น มัฆวาน"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น